เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพัน
ต่อมากรมป่าไม้โดยส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติได้ส่งเจ้าหน้าที่มาสำรวจพบว่านอกจากปูทูลกระหม่อมแล้ว ป่าดูนลำพันแห่งนี้ยังมีความหลากหลายทางธรรมชาติ ทั้งพืชพันธุ์และสัตว์ป่าจึงได้ดำเนินการเสนอต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และได้มีประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2541 โดยนายปองพล อดิเรกสาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำหนดให้พื้นที่สาธารณประโยชน์ป่าดูนลำพันในท้องที่ตำบลนาเชือก อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคามให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพันตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 116 ตอนพิเศษ 40 ลงวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2542
สถานที่ตั้งและอาณาเขต
สภาพพื้นที่โดยทั่วไปพื้นที่ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพันเป็นพื้นที่ขนาดเล็กสูงจากระดับน้ำทะเล 180 ถึง 200 เมตรลักษณะโดยทั่วไปเป็นที่ลุ่มสลับที่ดอนมีคลองชลประทานตัดผ่านกลางพื้นที่ ส่วนบนของพื้นที่ที่อยู่ติดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 219 (บรบือ-นาเชือก-พยัคฆภูมิพิสัย)มีลักษณะของพื้นที่เป็นที่ดอนลาดเท ลงสู่แนวคลองชลประทาน ลักษณะของดินเป็นดินร่วนปนทรายความเค็มสูงมีสีแดง ความอุดมสมบูรณ์ต่ำ เนื่องจากผิวหน้าดินถูกนำไปก่อสร้างถนนแผ่นดินหมายเลข 219 พื้นที่บริเวณนี้จึงจัดเป็นพื้นที่บริการไว้คอยบริการต้อนรับนักท่องเที่ยวมีอาคาร สำนักงาน และบ้านพักของเจ้าหน้าที่ๆ ส่วนพื้นที่ที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของคลองชลประทานคิดเป็น 60%ของพื้นที่ลักษณะเป็นที่ราบลุ่มมีหนองน้ำขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "หนองดูน" ซึ่งมีตาน้ำไหลผุดขึ้นมาตามธรรมชาติ ดินบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์มีและความชื้นสูงระดับน้ำใต้ดินมีความลึกจากผิวดินโดยเฉลี่ยประมาณ 1-2 เมตรพื้นที่บริเวณนี้จึงเป็นที่อยู่อาศัยของปูทูลกระหม่อม
ลักษณะภูมิอากาศ
ในฤดูร้อนอากาศร้อนอบอ้าวเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม-มิถุนายน โดยอุณหภูมิสูงสุดวัดได้ประมาณ 37 องศาในเดือนเมษายน ความชื้นสัมพัทธ์ สูงสุด 93% ต่ำสุด 73% ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม มีปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ย 1,280 มิลลิเมตร/ปี โดยเดือนที่มีฝนตกมากที่สุดคือเดือนกันยายน เฉลี่ย 386 มิลลิเมตรความชื้นสัมพัทธ์ สูงสุด 93% ต่ำสุด 84% (สถิติปี พ.ศ.2545) ฤดูหนาว อุณหภูมิค่อนข้างเย็นอากาศแห้งแลงและมีลมแรง
พืชพันธุ์และสัตว์ป่าสภาพพื้นที่ป่าของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพันมีลักษณะค่อนข้างพิเศษคือพื้นที่ที่อยู่ด้านทิศตะวันออก ของคลองชลประทาน มีสภาพป่าเป็นป่าเต็งรังไม้เด่นได้แก่ ไม้แสบงหรือไม้กราด และต้นรวงไซ พืชสมุนไพรที่พบเช่นโด่ไม่รู้ล้ม ขี้อ้น หยาดน้ำค้าง เป็นต้น ส่วนพื้นที่ป่าที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของคลองชลประทาน มีสภาพป่าที่มีลักษณะเป็น ป่าผสมกล่าวคือป่ากึ่งดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณและสภาพคล้ายป่าพรุ ไม้เด่นที่พบมากได้แก่ ต้นเชือกหรือต้นรกฟ้า ต้นผลู ต้นหว้า ไผ่ป่า ต้นข่อย ต้นแคทุ่ง เฟิน นอกจากนี้ยังมีพืชที่จัดเป็นพืชสมุนไพรมากมายหลายชนิด ได้แก่ เครือเอ็นอ่อน เถาเอ็นอ้า แก้วมือไว ว่านแผ่นดินเย็น กวาวเครือ เท้ายายหม่อม กล้วยไม้ที่พบในป่าดูนลำพันมีหลายชนิด เช่น กะเรกะร่อน คูลู เป็นต้น
พืชพันธุ์และสัตว์ป่าสภาพพื้นที่ป่าของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพันมีลักษณะค่อนข้างพิเศษคือพื้นที่ที่อยู่ด้านทิศตะวันออก ของคลองชลประทาน มีสภาพป่าเป็นป่าเต็งรังไม้เด่นได้แก่ ไม้แสบงหรือไม้กราด และต้นรวงไซ พืชสมุนไพรที่พบเช่นโด่ไม่รู้ล้ม ขี้อ้น หยาดน้ำค้าง เป็นต้น ส่วนพื้นที่ป่าที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของคลองชลประทาน มีสภาพป่าที่มีลักษณะเป็น ป่าผสมกล่าวคือป่ากึ่งดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณและสภาพคล้ายป่าพรุ ไม้เด่นที่พบมากได้แก่ ต้นเชือกหรือต้นรกฟ้า ต้นผลู ต้นหว้า ไผ่ป่า ต้นข่อย ต้นแคทุ่ง เฟิน นอกจากนี้ยังมีพืชที่จัดเป็นพืชสมุนไพรมากมายหลายชนิด ได้แก่ เครือเอ็นอ่อน เถาเอ็นอ้า แก้วมือไว ว่านแผ่นดินเย็น กวาวเครือ เท้ายายหม่อม กล้วยไม้ที่พบในป่าดูนลำพันมีหลายชนิด เช่น กะเรกะร่อน คูลู เป็นต้น
ชนิดสัตว์ป่าที่พบส่วนใหญ่เป็นสัตว์ขนาดเล็ก ได้แก่สุนัขจิ้งจอก อีเห็น พังพอน ตะกวด จิ้งเหลนน้อยหางยาวหรือที่เรียกว่างูขา เป็นต้นส่วนสัตว์จำพวกนกพบมากที่สุดทั้งจำนวนชนิดและจำนวนปริมาณโดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวจะมีนกอพยพ ที่หนีความหนาวมาจากประเทศจีนเป็นจำนวนมากเช่น นกยางโทนน้อย นกยางโทนใหญ่ นกยางกอกพันธุ์จีน นกแขวก นกเป็ดแดง เป็นต้น
ที่มา: